การจะเลือกซื้อคีย์บอร์ดเกมมิ่งสักตัวคงเป็นเรื่องยากในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานค่อยข้างหลากหลาย วันนี้ทีมงานได้คีย์บอร์ดเกมมิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Kingston ที่เพิ่งเปืดตัวไปภายในงาน TGS 25 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมานี้เอง โดยรุ่นนี้มีชื่อว่า Kingston HyperX Alloy Origins สำหรับเจ้าตัวนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่มีสเปกมาให้ใช้งานค่อนข้างครบเครื่องอยู่ไม่น้อย เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดสเปกๆ ต่างๆ กันก่อนเลย
Details
รายละเอียดทางเทคนิค
สายต่อ | |
---|---|
ประเภท | สายถักถอดแยกได้ |
ความยาว | 1.8 ม. |
ขนาด | |
ความกว้าง | 442.5 มม. |
ความหนา | 132.5 มม. |
ความสูง | 36.39 มม. |
น้ำหนัก (แป้นพิมพ์และสาย) | 1075 ก. |
คีย์บอร์ด | |
สวิตช์ควบคุม | HyperX Switch |
ประเภท | กลไก |
ไฟพื้นหลัง | RGB (16,777,216 สี) |
เอฟเฟกต์ไฟส่องสว่าง | ต่อปุ่ม RGB2 ปรับได้ 5 ระดับ |
หน่วยความจำในตัว | 3 โพรไฟล์การทำงาน |
ประเภทการเชื่อมต่อ | USB Type-C to USB Type-A |
Anti-ghosting | 100% anti-ghosting |
Key rollover | โหมด N-key |
ไฟ LED | มี |
ระบบควบคุมมีเดีย | มี |
Game Mode | มี |
OS ที่รองรับ | Windows® 10, 8.1, 8, 7 |
คีย์สวิตช์ | |
สวิตช์ควบคุม | HyperX Red Switch |
รูปแบบการทำงาน | เรียงตามลำดับ |
แรงกด | 45 ก. |
ระยะเคลื่อนปุ่ม | 1.8 มม. |
ระยะเคลื่อนรวม | 3.8 มม. |
อายุการใช้งาน (กดใช้งาน) | 80 ล้านครั้ง |
ราคา | 3,990 บาท |
Packeging
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
Design
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
HyperX Alloy Origins เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งมีขนาดเรียกว่ากะทัดรัด (36.4 x 442.5 x 132.5 มม.) เป็นคีย์บอร์ดแบบ Frameless ตัดขอบบอดี้ให้บาง ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 1.07 กิโลกรัม มาพร้อมการเชื่อมต่อสายแบบ USB-C ที่สามารถถอดออกได้ (ตัวสายยาว 1.8 เมตร) อีกฝั่งจะเป็นแบบ USB-A สำหรับเชื่อมต่อเข้าคอมพิวเตอร์ ด้วยขนาดและลักษณะการเชื่อมต่อและน้ำหนักเป็นข้อดีที่ทำให้เราพกพาไปใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นกว่าคีย์บอร์ดหลายๆ ตัวในท้องตลาด บอดี้ด้านบนทำจากอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง พื้นผิวเงาเล็กน้อยทำให้เวลาใช้งานแสงไฟที่ปุ่มจะสะท้อนทำให้มีความสวยงามดึงดูดตามากขึ้น ในส่วนรายละเอียดงานประกอบต่างๆ ของตัวบอดี้ภายนอกและภายในทำออกมาเนื้องานค่อนข้างดีเลยทีเดียว
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
Kingston HyperX Alloy Origins จะมีปุ่มฟังชั่นคีย์ลัดมาให้ใช้งาน ตั้งแต่เมนู Mutimedia เพิ่ม-ลดเสียง ไปถึงการปรับไฟของตัวคีย์บอร์ดเลย
สำหรับในรุ่นนี้เรียกว่าเป็นรุ่นแรกที่ทาง Kingston เลือกใช้งาน Switch เป็นของตัวเอง โดย HyperX Alloy Origins จะมาพร้อมปุ่ม RED Switch จากสัมผัสเป็นการกดแบบจังหวะเดียว ฟิวลิ่งการใช้งานคนที่ชอบพิมพ์เยอะๆ น่าจะชอบ การพิมพฺ์รู้สึกว่าพิมพ์อย่างได้คล่องตัว รวดเร็ว แม่นยำ และที่สำคัญเสียงเงียบ ขนาดตัวปุ่มพอดีนิ้วกำลังดี ลักษณะปุ่มมีส่วนเว้าเพื่อรองรับการสัมผัสของนิ้วมือให้สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น
![]() | ![]() |
ที่มุมขวาของตัวคีย์บอร์ดจะมีหน้าจอขนาดเล็กที่แสดงสถานะการใช้งานของปุ่ม Caplock, Num Lock และปุ่ม Gaming โหมด ที่เมื่อเราเปิดใช้งานจะทำให้เข้าโหมดการใช้งานแบบ Anti-Ghosting Full N-key Rollover ทำให้เราใช้งานได้ทุกปุ่มที่ต้องการใช้งานในเวลาเดียวกันได้เลย
HyperX Alloy Origins จะมาพร้อม Effect ไฟแบบ RGB ที่สามารถปรับระดับความสว่างแป้นพิมพ์ได้ 4 ระดับ ไฟแสดงได้สวยงามได้อย่างเต็มพื้นที่ ด้วยบอดี้ที่เงาเล็กน้อยทำให้แสงไฟกระทบแล้วมีออร่ารอบๆ ปุุ่มทำให้ไฟดูเต็มตาน่าดึงดูด
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
ฐานรองของ HyperX Alloy Origins จะมีตัวยกระดับฐานเพื่อเพิ่มความสูงให้ตัวคีย์บอร์ดรองรับการสัมผัสรองรับนิ้วมือได้ดีขึ้น โดยตัวนี้จะมีให้ปรับใช้งานถึง 2 ระดับเลย
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
HyperX Alloy Origins สามารถปรับแต่งไฟตัวคีย์บอร์ดผ่านซอร์ฟแวร์ HyperX NGENUITY สามารถดาวน์โหลดได้จาก Microsoft Store ได้เลย HyperX NGENUITY จะสามารถตั้งค่า Effect ไฟต่างๆ ได้หลากหลาย ปรับระดับความเร็ว Effect แบ่งไฟเป็นโซนการใช้งาน หรือปรับแต่งเป็นปุ่มๆ ไปเลยก็สามารถทำได้ มี Effect ให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลายเรียกว่ามีให้ใช้แบบครบเครื่องคนที่ชอบแสงสีไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังสามารถ Block การทำงานปุ่มลัดจำพวก Alt + F4, Alt + Tab เพื่อไม่ให้เรากดพลาดในขณะเล่นเกมได้อีกด้วย
Conclusion

โดยรวม HyperX Alloy Origins เหมาะสำหรับคนที่ชอบการใช้งานที่คล่องตัว ด้วย RED Swtich ที่เป็นจังหวะกด จังหวะเดียวและใช้แรงกดน้อย มีเสียงปุ่มกดที่เบา คนที่ชอบพิมพ์งาน แชท หรือไม่ชอบเสียงดังๆ คงจะแฮปปี้กับเจ้ารุ่นนี้อย่างแน่นอน การใช้งานเล่นเกมก็ตอบสนองได้ไว มีโหมดเกมที่ทำให้เรากดหลายๆ ปุ่มพร้อมกัน และโหมด Block Key ทำให้เราไม่ติดปัญหาหรือกดพลาดเวลาเล่นเกมอย่างแน่นอน HyperX Alloy Origins มี Effect ไฟที่ให้ใช้งานมาให้เรียกว่าครบเครื่อง ปรับแต่งได้ถึงระดับคีย์ต่อคีย์เลย เกมเมอร์สายแสงสีก็ตอบโจทย์ในส่วนนี้อีกเช่นกัน บนตัวคีย์บอร์ดยังมีฟังชั่นคีย์ลัดปุ่ม Mutimedia ควบคลุมมาให้ใช้งานเพิ่มเติมแบบไม่ให้ขาด ราคาค่าตัวของ HyperX Alloy Origins อยู่ที่ 3,990 บาท ถือว่าราคาไม่แพงสำหรับคุณภาพและฟีเจอร์ต่างๆ ที่จัดมาให้แบบครบเครื่อง
Advantages
- บอดี้แข็งแรง งานประกอบแน่นหนา
- ขนาดกะทัดรัด สาย USB-C ถอดสายเก็บได้ พกพาสะดวก
- Effect ไฟ RGB ครบเครื่องสามารถปรับค่าแบบแยกปุ่มได้
- HyperX Switch ทำออกมาได้ดี
- มีซอร์ฟแวร์ HyperX NGENUITY ปรับแต่งได้สะดวกขึ้น
Notice
- เสียงเงียบ กดจังหวะเดียว อาจจะไม่โดนใจวัยโจ๋ที่ตอบเสียงลั่นแบบ Blue Switch
- ไม่มีซองสำหรับใส่คีย์บอร์ดพกพาไปข้างนอกมาให้